Kansai thru pass

คันไซทรูพาส เป็นอีกหนึ่งพาสที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่อยากไปเที่ยวแถบคันไซ เพราะว่าเจ้าพาสตัวนี้สามารถใช้งานได้ถึง 6 จังหวัด ได้แก่ Osaka Hyogo Kyoto Nara Wakayama Shiga ซึ่งแต่ละจังหวัดก็มีสถานที่ท่อเที่ยวดังๆ และเป็นมรดกโลกมากมายค่ะ ก่อนที่จะไปเที่ยวรอบๆ คันไซเรามาทำความรู้จักกับ Kansai thru pass กันก่อนดีกว่า

Kansai thru pass มี 2 แบบคือ สามารถใช้งานได้ 2 วัน และใช้งานได้ 3 วัน แน่นอนว่าราคาก็ถูกแพงต่างกันไป ซึ่งการหาซื้อ Kansai thru pass สามารถหาซื้อได้ตามตัวแทนการขายภายในประเทศไทยค่ะ สำหรับข้อดีของเจ้าพาสตัวนี้คือ เราสามารถเลือกวันใช้งานได้ ไม่จำเป็นต้องใช้พาสติดต่อกัน เหมือน JR PASS ซึ่งเราสามารถจัดการแพลนการเที่ยวได้อย่างสบายใจได้เลย เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว มาเริ่มเที่ยวกันเลยดีกว่า

ทันทีเราลงเครื่องมาถึงสนามบินคันไซเราก็สามารถเริ่มต้นใช้งาน Kansai thru pass ได้เลยทันที ซึ่งเราสามารถนั่งรถไฟไปถึง Namba ได้เลย แบบที่ไม่ต้องเปลี่ยนสายรถไฟ ใช้เวลาเพียง 50 นาที หรือถ้าใครอยากจะถึงเร็วกว่านั้นก็จ่ายเงินเพิ่มอีก 510 เยน นั่งรถไฟExpress ก็จะสามารถถึง Namba เพียง 34 นาที สำหรับวันแรกแนะนำไปเลยว่าให้ใช้ไปเลย แล้วนั่งรถไปถึงที่พักย่าน Namba หรือ Umeda พอนั่งรถมาถึงก็ทำการ Check-in โรงแรม เก็บข้าวของให้เรียบร้อย และเตรียมตัวออกเที่ยวกันได้เลยค่ะ

โดยแพลนที่คิดไว้คือจะเริ่มจากการไปเที่ยวที่ปราสาทโอซาก้าก่อน โดยปราสาทแห่งนี้มีประวัติศษสตร์ยาวนานเพราะเป็นปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นโดย Hideyoshi Toyotomi โดยตัวปราสาทสามารถมองเห็นวิวเมืองโอซาก้าโดยรอบเลย โดยการเดินทางสามารถนั่ง รถไฟใต้ดินไปลงสถานี Tanimachi Yonchome แล้วออกทางออกที่ 1-B หรือทางออก 9 แล้วเดินต่ออีกนิดก็จะเจอกับปราสาทโฮซาก้าค่ะ โดยมีค่าเข้าชมปราสาทอยู่ที่ 600 เยนค่ะ

หลังจากที่เราเที่ยวชมปราสาทเสร็จแล้ว ก็นั่งรถไฟไปต่อที่ตลาดคุโรมอน เป็นตลาดปลาที่มีชื่อเสียงอีกแห่งในเมืองโอซาก้า เพียงแค่นั้นรถไฟมาที่สถานี Nippombashi เราก็จะได้ทานอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ อาหารทะเลสดๆ ในราคาถูกมากมาย

เมื่อเรากินอาหารกันเสร็จก็นั่งรถไฟกลับมาช็อกปิ้งที่ นัมบะ ซึ่งบริเวณนั้นเรียกได้ว่าเป็นจุดช็อปปิ้งยอดฮิตของนักท่องเที่ยวเลยทีดี และอย่าลืมไปถ่ายรูปคู่กับป้ายไฟกูลิโกะกันด้วยนะ

วันที่สอง เราสามารถเดินทางไปเที่ยวที่วัด Kiyomizu dera ซึ่งเราก็สามารถใช้ Kansai thru pass มาลงที่สถานีเกียวโตได้เลยค่ะ แล้วต่อรถบัสอีกนิดก็ถึงค่ะ ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวต้องได้มาค่ะ

หลังจากที่เราเดินชมวัดกันเรียบร้อยแล้ว แนะนำว่าให้นั่งรถไฟไปเที่ยวปราสาท Himeji ที่อยู่ที่จังหวัดเฮียวโกะต่อค่ะ ปราสาทแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น ปราสาทที่สวยติดอันดับในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว เนื่องจากตัวปราสาทมีสีขาวล้วน เวลามองไกลๆ จะสวยมากๆ โดยนั่งรถไฟมาลงทีสถานี Sanyo-Himeji ค่ะ โดยมีค่าเข้าชมคนละ 1000 เยน ซึ่งถ้าหากว่าโชคดีที่นี่จะมีไกด์พาเที่ยวด้วยนะ ซึ่งก็เป็นอาสามัครชาวญี่ปุ่นค่ะ

หลังจากที่เราเดินชมปราสาทแล้วก็นั่งรถไฟต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งมาลงรถไฟที่สถานี Kyukyoryuchi-Daimarumae แล้วเดินออกทางออกที่ 1 ซึ่งบริเวณนี้จะเป็น China Town ของฝั่งคันไซค่ะ โดยจะมีอาหารจีนนานาชานิด รวมถึงศาลเจ้าจีนด้วยค่ะ หากใครที่เที่ยวๆ อยู่แล้วคิดถึงอาหารจีน ก็สามารถมาเที่ยวเพื่อทานอาหารตรงนี้ก็ได้ค่ะ

หลังจากที่เราทานอาหารจีนกันเสร็จแล้ว เราก็ต้องนั่งรถไฟกลับมาที่นัมบะ ที่โอซาก้าเพื่อมาพักผ่อนค่ะ

วันที่สาม วันสุดท้ายของการใช้ Kansai thru pass เราก็ยังคงมาเริ่มต้นกันที่นัมบะ วันนี้เราจะเดินทางไปจังหวัดนาราค่ะ เพราะจังหวัดนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ เรียกได้ว่าเป็นเมืองเก่าของญี่ปุ่นก็ว่าได้ ซึ่งเราจะไปวัด Todai-ji ซึ่งด้านในจะมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ให้เราได้กราบไหว้สักการะค่ะ ซึ่งการเดินทางคือการนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kintestu-Nara ค่ะ แล้วออกทางออกที่ 1 จริงๆ จากสถานีรถไฟก็เดินมาเรือยๆ ที่วัดได้นะคะ เพราะระหว่างทางจะมีพวกกวางเต็มไปหมดเลย แต่ถ้าใครเดินไม่ไหวก็นั่งรถบัสก็ได้ค่ะ โดยวัดแห่งนี้จะมีค่าเข้าชมภายในอยู่ที่ 500 เยนค่ะ แน่นอนว่าตลอดทาง และภายในตัววัดจะมีกวางเต็มไปหมดเลยค่ะ หลังจากที่เราชมวัดพระใหญ่กันแล้ว บริเวณใกล้เคียงก็จะมีวัด Kasuga Taisha Shrine หรือ Kofuku-Ji ซึ่งวัดทุกที่ล้วนมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นทั้งสิ้นค่ะ

เมื่อไรเดินเที่ยวชมบริเวณโดยรอบเมืองนาราแล้ว ก็นั่งรถไฟกลับมาที่โอซาก้า เพื่อมาช็อปปิ้งต่อที่ HEP FIVE ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่เด็กๆ วัยรุ่นญี่ปุ่นชอบมาเที่ยวกันค่ะ ซึ่งที่ห้างนี้นอกจากจะมีสินค้าขายมากมายแล้ว ด้านบนห้างยังมีชิงช้ายักษ์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้วยค่ะ ซึ่งเราสามารถขึ้นไปนั่งชิงช้าสวรรค์เพื่อชมวิวเมืองโอซาก้าได้ค่ะ แน่นอนว่าหากใครที่กำลังหิว ก็สามารถพักทานอาหารบริเวณนี้ได้เลยค่ะ เพราะแถวนี้ก็มีร้านอาหารอร่อยๆ อยู่เต็มไปหมดเลย

เสร็จแล้วเราก็สามารถกลับมายังที่พักบริเวณ อุเมดะค่ะ ซึ่งถ้าใครยังพอมีแรงเหลือก็สามารถแวะช็อปปิ้งต่อที่ถนน Dontonbori ได้นะ แต่ถ้าใครไม่ไหวแล้ว ก็ต้องรีบกลับไปพักผ่อน เพื่อเก็บแรงไว้ในวันต่อไปค่ะ

ซื้อ KANSAU THUR PASS ราคาพิเศษที่นี้ http://bit.ly/NOV18PRO

หากคุณกำลังมองหาที่พัก... จองที่พักและเลือกรับข้อเสนอ ในราคาสุดพิเศษ...

Booking.com
Copyright © 2020 · All Rights Reserved · 4wifi